เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว รู้สึกเหมือนมีตุ่มที่ใต้ตา ไปหาหมอ ๆบอกเป็นตากุ้งยิง ให้ยาฆ่าเชื้อมากินห้าวัน และหยอดตา นัดดูอาการอีกอาทิตย์นึง กินยาแล้วหนองไม่ยุบ หมอตรวจตาอีกทีบอกว่า มีสองวิธี คือ สะกิดให้หนองออก กับ กรีดเอาหนองออก(วิธีนี้แน่นอนว่าหนองออกหมด) แต่เรากลัวเลยขอให้หมอสะกิดแล้วบีบเอาหนองออก หมอบอกว่า มีสองหัว และยังมีผังผืด หนองยังไม่หมด ให้กินยาต่อไปอีกอาทิตย์ ประกอบกับหยอดตาร่วมด้วย พอกลับมาบ้าน รอยที่หมอสะกิดมันเลือดออก เราก็ล้างแผล หยอดตา ตอนนี้มันยังแดงๆ มีเลือดออกนิดๆ เหมือนแผลสิว อยากถามค่ะว่า 1. เรามีปัญหาเรื่องเชื้อราในช่องคลอด (สังเกตุตัวเองจะเป็นหากกินยาฆ่าเชื้อต่อเนื่องนานๆ) เราไม่อยากกินยาฆ่าเชื้อแล้ว เพราะเหมือนหนองมันไม่ยุบ เราสามารถปล่อยให้หนองมันแตกเองได้ไหมค่ะ หากเราไม่กินยาฆ่าเชื้อ 2. จำเป็นต้องให้จักษุแพทย์เท่านั่นหรือไม่ที่กรีดตา (ถามกรณีหนองยุบแล้ว เหลือไตๆ) จะให้คลีนิคหมอทั่วไป พวกเย็บแผล ทำได้ไหมค่ะ ค่าใช้จ่ายน่าจะถูกกว่ามากเลย ช่วยตอบด้วยนะค่ะ กลุ้มใจมากเลย เป็นมาเกือบสิบวันแล้ว ยังไม่ยุบ ยังไม่หาย
หลายคนวางถุงชาที่เปียกและเย็นบนตาที่บวม นี่ได้ผลเนื่องจากอุณหภูมิที่เย็น บางคนใช้ชาดำ ชาเขียว หรือสมุนไพรชนิดต่างๆ ซึ่งหลายอย่างในส่วนนี้ยังไม่ได้รับการศึกษา แต่คาเฟอีนซึ่งเป็นส่วนประกอบที่มีแนวโน้มว่าจะได้ผลมากที่สุดนั้นดูเหมือนจะไม่มีฤทธิ์ใดๆ [3] ผ้าขนหนูอาจจะมีประสิทธิภาพพอๆ กันและมีความเสี่ยงในการติดเชื้อแบคทีเรียต่ำกว่า หลีกเลี่ยงการใช้อาหารรักษา. แตงกวาหั่นเป็นแว่นๆ เป็นหนึ่งในการรักษาที่พบได้มากที่สุดสำหรับอาการตาบวม นี่มีประสิทธิภาพ แต่นั่นเป็นเพราะว่าอุณหภูมิที่เย็นของแตงกวาเท่านั้น [4] ทางที่ดีที่สุดนั้นควรจะใช้ผ้าขนหนูเย็นๆ หรือถุงประคบเย็นเพื่อลดโอกาสการติดเชื้อแบคทีเรียจากอาหาร ถ้าคุณใช้การรักษาด้วยอาหาร แตงกวาที่ล้างสะอาดแล้วอาจจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่ปลอดภัยที่สุด หลีกเลี่ยงการใช้มันฝรั่ง ไข่ขาว โยเกิร์ต และอาหารที่มีกรด เช่น สตรอเบอร์รี่ หรือน้ำมะนาว 3 อย่าใช้ยาที่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองกับตา.
จะเริ่มเป็น ตุ่มแข็ง กลมๆ เล็กๆ ใช้เวลาประมาณ์ 1 - 2 สัปดาห์ แล้วจะเห็น สมาชิกหมายเลข 2215091 โรคภูมิแพ้ ผิวแพ้ง่าย ระบบร่างกาย อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ โรคผิวหนัง
1) ระดับการศึกษา ระดับอนุปริญญา หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง(ปวส. ) หรือเทียบเท่า ระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า 3. 2) หลักสูตร/ประเภทวิชาและสาขาวิชา เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการกองทุนเพื่อการศึกษา เรื่อง กำหนดหลักสูตร/ประเภทวิชาและสาขาวิชาที่เป็นความต้องการหลักและมีความชัดเจนของการผลิตกำลังคน สำหรับนิสิตหรือนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการปีการศึกษา 2555 พ. ศ. 2555 4) นิสิตหรือนักศึกษาสามารถขอรับทุนได้เพียงหนึ่งหลักสูตรในแต่ละปีการศึกษาไม่เกินอัตราค่าเล่าเรียนที่สถานศึกษาเรียกเก็บ ตามจำนวนปีที่กำหนดไว้แต่ละหลักสูตรกรณีที่ผู้ขอรับทุนมีสิทธิเบิกค่าเล่าเรียนจากหน่วยงานของรัฐให้ผู้ขอรับทุนขอรับทุนได้เฉพาะค่าเล่าเรียนส่วนต่างเท่านั้น ทั้งนี้ ต้องไม่เกินอัตราที่กำหนด 5) นิสิตหรือนักศึกษาที่มีสิทธิได้รับค่าครองชีพ ต้องเป็นผู้มีรายได้ครอบครัวไม่เกิน 360, 000 บาทต่อปี และให้ได้รับค่าครองชีพในอัตราเดือนละ 3, 000 บาท (เริ่มปีการศึกษา 2563) การพิจารณารายได้ครอบครัว ให้ผู้บริหารสถานศึกษาพิจารณากลั่นกรองข้อมูลตามหลักเกณฑ์ข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้ 5. 1) รายได้รวมของนิสิตหรือนักศึกษาผู้ขอรับทุนรวมกับรายได้ของบิดาและมารดากรณีที่บิด มารดาเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองไม่ใช่บิดา มารดา 5.
074-282203 (วันเวลาราชการ)